วันเสาร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2557

การปฏิวัติของประชาชน



การปฏิวัติของประชาชน

            มีผู้สงสัยมากว่า ที่ว่าเป็น การปฏิวัติของประชาชนนั้น หมายความว่าอย่างไร เพราะการปฏิวัติ ของคณะราษฎรประชาชนเขาก็อยู่เฉยๆ ไม่เห็นว่าประชาชนจะได้ทำการปฏิวัติอะไรเลย
            การปฏิวัติของประชาชนหมายความว่า เป็นความต้องการของประชาชน ความต้องการของ ประชาชนคือ “มติมหาชน” ถึงแม้จะอยู่เฉยๆ ก็มีพลังยิ่งใหญ่ กระแสปฏิวัตินั้นรู้สึกได้
            ในสถานการณ์ที่ประชาชนต้องการปฏิวัตินั้น บุคคลใดหรือคณะบุคคลใดก็ตามที่รับความ ต้องการนั้นของประชาชนไปปฏิบัติเพื่อบรรลุความต้องการ เขาก็เป็น “ผู้แทนของประชาชน” และเป็น “ผู้นำการปฏิวัติของประชาชน” ทั้งนี้เพราะประชาชนปฏิวัตินั้นต้องมี “ผู้นำ” ซึ่งอาจเป็นบุคคล ประเภทไหน ระดับไหนก็แล้วแต่สภาวการณ์ อาจนำโดยพระเจ้าแผ่นดินก็ได้ เช่น ญี่ปุ่น
            พล.ท. ประยูร ภมรมนตรี ผู้นำคนหนึ่งของคณะราษฎรเขียนถึงเงื่อนไขของความสำเร็จของการ ปฏิวัติเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475 ไว้ว่า “ประการหนึ่งด้วยความสนับสนุนของประชาชนชาวไทย เนื่องด้วยวิกฤตกาลในการคลัง การเงินและการเศรษฐกิจของประเทศไทยยุคนั้นปั่นป่วน ต้องดุล ข้าราชการกันหลายครั้งหลายหน ส่วนชั้นผู้ใหญ่ก็อยู่ในเกณฑ์ยกเว้นไม่เป็นธรรม การครองชีพฝืดเคือง ข้าวยากหมากแพง บ้านเมืองอยู่ในฐานะซบเซา ประชาชนรู้สึกปริวิตกและอิดหนาระอาใจทั่วกัน เพราะฉะนั้น เมื่อมีการยึดอำนาจเปลี่ยนแปลงการปกครองขึ้น ก็ได้รับความสนับสนุนโดยมุ่งหวังจะ เป็นทางแก้ไข บรรเทาความวิบัติให้คลี่คลายและฟื้นฟูบ้านเมืองได้” (จากหนังสือ ชีวิต ธ แผ่นดินของ ข้าพเจ้า)


การปฏิวัติสันติ



            การปฏิวัติสันติ มีผลในทางเปลี่ยนแปลงวัตถุด้านเดียว
            แต่การปฏิวัติสันติเท่านั้น นอกจากจะมีผลในทางเปลี่ยนแปลงวัตถุแล้ว ยังมีผลในทางเปลี่ยน แปลงจิตใจอีกด้วย
            ถ้าประเทศใดประชาชนทำการปฏิวัติสันติได้สำเร็จ ก็คือ การปฏิวัติมนุษย์ (Human Revolution)
            การปฏิวัติมนุษย์ เป็นประตูทองไปสู่ “ยุคมนุษยธรรม” แก้ปัญหาประเทศได้แล้ว ยังช่วยแก้ ปัญหาโลกและมนุษยชาติที่ใกล้จะถึงทางตัน (ของยุคทุนนิยม) ได้อีกด้วย
            แนวทางรุนแรงเป็นพลังชนิด “หยาบ” ย่อมมีกำลังน้อย แนวทางสันติเป็นพลัง “ปราณีต” ย่อม มีกำลังมาก (หลักการจัดกำลังในวิชายุทธศาสตร์)
            ระบบเศรษฐกิจเสรีนิยมเริ่มต้นขึ้นในราวศตวรรษที่ 15 เมื่อมาถึงทุกวันนี้มันเริ่มเข้าสู่วัยชรา ใกล้แตกดับ ประเทศมหาอำนาจที่เคยมีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจกลับกลายเป็นประเทศที่มีหนี้ สาธารณะท่วมล้น และแก้ไม่ได้ ยุโรปและอเมริกาเหนือใกล้ล้มละลาย หาทางแก้ไม่ได้ มาตรการที่ เคยใช้ได้ผลมา  500ปี ในการแก้วิกฤติเศรษฐกิจกลับดื้อยา เพราะยังไม่รู้ตัวว่ามันกำลังสิ้นยุคทุนนิยม แล้ว แต่ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่จะแก้ปัญหานี้ได้


ทฤษฎีปฏิวัติถาวร

            ในระบบสังคมนิยมนั้น เดิมที่ก็เข้าใจกันว่าจะต้องรบกับระบบเสรีนิยมตลอดไป เพราะความ เข้าใจเช่นนี้ ถึงกับมีผู้ตั้งทฤษฎีขึ้นมาทฤษฎีหนึ่ง เรียกว่า “ทฤษฎีถาวร” (Permanent Revolution)
            ทฤษฎีนี้มีใจความว่า เมื่อระบบสังคมนิยมชนะในประเทศรัสเซียแล้ว ก็ต้องยกกองทัพบุกตะลุย เข้าไปในประเทศเสรีนิยม เพื่อช่วยชนกรรมาชีพของประเทศเหล่านั้นทำการปฏิวัติให้สำเร็จติดต่อกัน ไปจนตลอดโลก โดยไม่มีการหยุดเลย จึงเรียกว่า การปฏิวัติถาวร คือต้องทำสงครามปฏิวัติเรื่อยไปไม่มี หยุดทฤษฎีนี้เป็นทฤษฎีของ “ทรอตสกี้”
            แต่เลนินไม่เห็นด้วย โดยสรุปว่า ถึงแม้ระบบเสรีนิยมกับระบบสังคมนิยมโดยธรรมชาติจะอยู่ ร่วมโลกกันอย่างสันติภาพไม่ได้ก็จริงอยู่ แต่ก็มีเงื่อนไขที่ประเทศสังคมนิยมจะสามารถใช้นโยบายให้  2 ระบบนี้อยู่ร่วมโลกกันอย่างสันติภาพได้ เหมือนกับการเอาคน 2 คนที่เป็นคู่อาฆาตกันมาอยู่ในห้อง เดียวกันได้นั้น มีวิธีที่จะทำให้ไม่ชกกันได้เป็นวิธีการพิเศษ ซึ่งไม่ศัพท์อื่นที่จะเหมาะกับความหมายนี้ มากไปกว่า “อยู่ร่วมกันโดยสันติภาพ” (Peaceful Co-Existence)


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น